หนุ่มโพสต์ เบื่อเพื่อนร่วมงานเอาลูกมาเลี้ยง ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นเดือดร้อน

      หนุ่มโพสต์ เบื่อเพื่อนร่วมงาน เมื่อวันที่ 15 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.  2565 ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวสอบถามความคิดเห็นของชาวโซเชียลว่าเขาควรทำอย่างไรดีหลังจากที่เขาต้องเจอกับปัญหาว่าเพื่อนร่วมงานของเขานำลูกมาเลี้ยงที่ทำงานแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ 

        สำหรับชายหนุ่มเจ้าของโพสต์ระบุว่าเพื่อนร่วมงานของเขานั้นมีปัญหากับภรรยาและเลิกรากันไปและทิ้งลูกวัย 2 ขวบไว้ให้กับเพื่อนร่วมงานของเขาเหรียญ

ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงได้พาลูกมาเลี้ยงที่ทำงานทุกวัน  ซึ่งเด็กถูกนำมาเลี้ยงที่บริษัทตั้งแต่อายุ 2 ขวบจนปัจจุบันนี้อายุเกือบจะ 4 ขวบแล้ว

       อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ระบุว่าสาเหตุที่เขานั้นรู้สึกไม่พอใจกับเพื่อนร่วมงานนั่นก็เพราะว่าหลังจากที่นำลูกมาเลี้ยงที่บริษัทแล้วตัวพ่อของเด็กนั้นต้องออกไปทำงานด้านนอกปล่อยเด็กไว้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นและเด็กมีพฤติกรรมไม่เรียบร้อยโดยเด็กมีนิสัยก้าวร้าว  และเป็นเด็กเอาแต่ใจตนเองนอกจากนี้ยังเป็นเด็กที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องซึ่งอาจจะเกิดจากพัฒนาการด้านการพูดช้า

        เจ้าของโพสต์เล่าว่าในช่วงแรกๆที่เด็กมาที่บริษัทเพื่อนร่วมงานคอยช่วยเหลือดูแลให้แต่เด็กไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่เพราะเด็กมักจะติดโทรศัพท์ และชอบโวยวายร้องเสียงดัง  เวลาที่ลูกค้าโทรเข้ามาก็มักจะได้ยินเสียงเด็กตะโกนร้องโวยวาย

ทำให้ลูกค้านั้นไม่พอใจเพราะว่าคุยติดต่อธุระกันไม่รู้เรื่อง  นอกจากนี้เด็กยังชอบปีนไปบนโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆและไปทำของพังเสียหายเมื่อถูกดุก็จะร้องไห้เสียงดังโวยวายและหากใครเข้าไปปลอบก็จะไม่สนใจจะถีบและผลัก แถมตะโกนด่าทอเสียงดัง

          เพื่อนร่วมงานหลายคนพยายามที่จะช่วยเลี้ยงให้ด้วยการเอาสมุดระบายสีเอาของเล่นมาให้เล่นรวมถึงชวนพูดคุยแต่เด็กก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือเด็กจะมีนิสัยร้องจะเอาโทรศัพท์ไปเล่นเพลงอย่างเดียวซึ่งบางครั้งโทรศัพท์เป็นของสำนักงานลูกค้าต้องโทรเข้ามาถ้าเด็กถืออยู่ก็จะไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้บางครั้งต้องเอาโทรศัพท์มือถือส่วนตัวให้กับเด็กเล่นเพื่อป้องกันปัญหาเด็กวุ่นวายร้องไห้งอแงแต่เมื่อมีโทรศัพท์ส่วนตัวมาเด็กก็จะไม่ยอมคืนให้เช่นเดียวกัน

        ปัจจุบันเพื่อนร่วมงานทุกคนต่างก็รู้สึกไม่พอใจกับการที่มีการเอาเด็กมาเลี้ยงที่ทำงานแต่ก็ไม่สามารถพูดได้เนื่องจากว่าหัวหน้างานนั้นก็เป็นญาติกับพ่อของเด็ก  ดังนั้นเขาจึงได้มีการโพสต์ถามคนในโซเชียลว่าควรจะทำอย่างไรดีเพราะตัวเขาเองนั้นก็ไม่ใช่คนที่จะรักเด็กมากสักเท่าไหร่นัก 

       อย่างไรก็ตามสำหรับ Comment ของชาวโซเชียลนั้นระบุว่าแนะนำว่าควรจะต้องมีการแจ้งพฤติกรรมให้พ่อของเด็กทราบหากไม่เชื่อให้ถ่ายเป็นคลิปให้พ่อของเด็กได้เห็นและนำคลิปดังกล่าวไปแจ้งให้หัวหน้างานพร้อมกับรวมตัวกันแจ้งกับหัวหน้างานว่าไม่สะดวกที่จะให้เด็กมาอยู่ที่ทำงานเพราะทำให้ระบบการทำงานเสียหายซึ่งถ้าหากยังไม่ได้ผลให้แจ้ง HR ของบริษัทได้เลย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    หวยดี

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวทั่วไป และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร