เจอแล้วเซลล์สาวที่หายตัวไป พบเสียชีวิตอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่

 จากกรณีหญิงสาวเซลล์โชว์รูมรถ ยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดเชียงใหม่ขายตัวไปนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2566 ได้พบว่าหญิงสาว เซลล์คนนี้ได้เสียชีวิตลงอยู่ในห้องพักโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่

โดยผู้ต้องสงสัยนั้นทราบชื่อคือนาย ณัฐพล อายุ 41 ปี โดยประกอบอาชีพ รถรับจ้างขนส่งพัสดุของบริษัทเอกชน

เป็นชาวจังหวัดกรุงเทพมหานครแต่มาทำงานอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จากที่เบาะแส ได้ทราบว่าได้พบหญิงสาวนอนเสียชีวิตอยู่ในห้องพักโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้จับกุม นายณัฐพล ได้ในอำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่คาดว่านายณัฐพลกำลังจะหลบหนีไป ยังจังหวัดใกล้เคียงเพื่อหลบหนีคดีโดยพบรถ Yaris

ซึ่งรถคันนี้เป็นของแฟนสาวของนายณัฐพล ภายในรถนั้นยังพบค้อนถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว และแว่นตาของเซลล์สาวคนนี้คาดว่าจะนำหลักฐานพวกนี้ไปทำลายหลักฐานทิ้ง แต่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จับตัวได้ก่อน ซึ่งชายหนุ่มคนนี้นั้น ก่อนหน้านี้ทำท่าที สนใจรถ

เพื่อจะนำมาประกอบ อาชีพ ในการขนส่งพัสดุ จึงได้ติดต่อไปยังพนักงานขายคนนี้ เพื่อจะทำการซื้อขายรถยนต์

แต่ไม่คิดที่จะซื้อจริงเพียงเป็นการหลอกล่อพนักงานขาย ให้ออกมานอกพื้นที่โชว์รูม โดยพาขึ้นรถกู้เกินไปยังม่านรูดแห่งนี้ คาดว่า น่าจะทำการข่มขืน และ ฆ่าทิ้งปิดปาก แล้วคาดว่าจะหลบหนีได้ทัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะทำการเก็บหลักฐานทั้งหมดที่พบเจอภายในรถ

และ รับนำตัวนายณัฐพล ไปยังสถานีตำรวจ เพื่อ ทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าสาเหตุที่ทำลงไปนั้นเพราะอะไร ชอบสาวใส่แว่น โดยนายณัฐพล ออกมาได้ อีกครั้ง ซึ่งคดี ก็มีการทำร้ายร่างกาย ผู้หญิงเช่นกัน แต่ก็ยัง รอดพ้นออกมาใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป

ซึ่งในทางอันตรายต่อ คนที่จะดำเนินชีวิต หรือคนทำมาหากินในยุคปัจจุบัน ส่วนญาติผู้เสียหายนั้น ก็ได้มาจนถึงม่านรูดแห่งหนึ่ง พอมาถึงที่เกิดเหตุญาติผู้เสียชีวิต  huaydee    ก็ร้องห่มร้องไห้ โศกเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายณัฐพล ที่ลงมือฆ่า

เกือบจะโดนถูกรุมประชาทัณฑ์ จากชาวบ้านที่ได้เห็นข่าว มีลักษณะส่วนของผู้เสียชีวิตนั้น นอนหงายอยู่ภายในห้องม่านรูดแห่งนี้มือ ถูกมัดด้วยเชือกและข้อเท้าก็อนุมัติ ท้ายทอยมีรอยคาดว่าจะดูค้อนทุบไปที่ท้ายทอยจนเป็นรอยเขียวช้ำ และภายในห้องพัก นายณัฐพลยังเปิดแอร์ทิ้งไว้

แค่นั้นยังไม่พอนายณัฐพลใจโหดเหี้ยมคนนี้ยังมีการข่มขืนเซลล์สาวคนนี้ก่อนที่จะหลบหนีไปอีกด้วย ทำให้ญาติผู้เสียชีวิตนั้นยิ่งโศกเศร้าเสียใจกันอย่างหนักหน่วง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ยังไม่ให้ญาติได้เข้าใกล้ส่งผู้เสียชีวิตจะต้องนำส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาล

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งก่อนที่จะให้นำไป ทำตามประเพณีของแต่ละครอบครัว ทางญาติของผู้เสียหายนั้นก็ยังอยากให้ตำรวจให้ทำโทษหนักของนายณัฐพลจนถึงขั้นประหารชีวิต ต้องแลกด้วยชีวิตเหมือนที่สูญเสียสาวคนนี้ไป

เพื่อนๆเซลล์ก็ต่างพากันซึมเศร้าเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ที่ไม่ได้ช่วยเหลือเพื่อน ไว้ก่อนหน้านี้ทุกคนยังอยู่ในอาการตกใจและซึมเศร้า กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวในรัฐกับคนนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินตามคดีตามกฎหมายต่อไป

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เจอแล้วเซลล์สาวที่หายตัวไป พบเสียชีวิตอยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จังหวัดเชียงใหม่

หนุ่มโพสต์ เบื่อเพื่อนร่วมงานเอาลูกมาเลี้ยง ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นเดือดร้อน

      หนุ่มโพสต์ เบื่อเพื่อนร่วมงาน เมื่อวันที่ 15 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.  2565 ได้มีสมาชิกเว็บไซต์พันทิปรายหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์เล่าเรื่องราวสอบถามความคิดเห็นของชาวโซเชียลว่าเขาควรทำอย่างไรดีหลังจากที่เขาต้องเจอกับปัญหาว่าเพื่อนร่วมงานของเขานำลูกมาเลี้ยงที่ทำงานแล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ 

        สำหรับชายหนุ่มเจ้าของโพสต์ระบุว่าเพื่อนร่วมงานของเขานั้นมีปัญหากับภรรยาและเลิกรากันไปและทิ้งลูกวัย 2 ขวบไว้ให้กับเพื่อนร่วมงานของเขาเหรียญ

ดังนั้นเพื่อนของเขาจึงได้พาลูกมาเลี้ยงที่ทำงานทุกวัน  ซึ่งเด็กถูกนำมาเลี้ยงที่บริษัทตั้งแต่อายุ 2 ขวบจนปัจจุบันนี้อายุเกือบจะ 4 ขวบแล้ว

       อย่างไรก็ตามเจ้าของโพสต์ระบุว่าสาเหตุที่เขานั้นรู้สึกไม่พอใจกับเพื่อนร่วมงานนั่นก็เพราะว่าหลังจากที่นำลูกมาเลี้ยงที่บริษัทแล้วตัวพ่อของเด็กนั้นต้องออกไปทำงานด้านนอกปล่อยเด็กไว้กับเพื่อนร่วมงานคนอื่นและเด็กมีพฤติกรรมไม่เรียบร้อยโดยเด็กมีนิสัยก้าวร้าว  และเป็นเด็กเอาแต่ใจตนเองนอกจากนี้ยังเป็นเด็กที่พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องซึ่งอาจจะเกิดจากพัฒนาการด้านการพูดช้า

        เจ้าของโพสต์เล่าว่าในช่วงแรกๆที่เด็กมาที่บริษัทเพื่อนร่วมงานคอยช่วยเหลือดูแลให้แต่เด็กไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าไหร่เพราะเด็กมักจะติดโทรศัพท์ และชอบโวยวายร้องเสียงดัง  เวลาที่ลูกค้าโทรเข้ามาก็มักจะได้ยินเสียงเด็กตะโกนร้องโวยวาย

ทำให้ลูกค้านั้นไม่พอใจเพราะว่าคุยติดต่อธุระกันไม่รู้เรื่อง  นอกจากนี้เด็กยังชอบปีนไปบนโต๊ะทำงานของเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆและไปทำของพังเสียหายเมื่อถูกดุก็จะร้องไห้เสียงดังโวยวายและหากใครเข้าไปปลอบก็จะไม่สนใจจะถีบและผลัก แถมตะโกนด่าทอเสียงดัง

          เพื่อนร่วมงานหลายคนพยายามที่จะช่วยเลี้ยงให้ด้วยการเอาสมุดระบายสีเอาของเล่นมาให้เล่นรวมถึงชวนพูดคุยแต่เด็กก็ไม่ยอมให้ความร่วมมือเด็กจะมีนิสัยร้องจะเอาโทรศัพท์ไปเล่นเพลงอย่างเดียวซึ่งบางครั้งโทรศัพท์เป็นของสำนักงานลูกค้าต้องโทรเข้ามาถ้าเด็กถืออยู่ก็จะไม่ยอมคืนโทรศัพท์ให้บางครั้งต้องเอาโทรศัพท์มือถือส่วนตัวให้กับเด็กเล่นเพื่อป้องกันปัญหาเด็กวุ่นวายร้องไห้งอแงแต่เมื่อมีโทรศัพท์ส่วนตัวมาเด็กก็จะไม่ยอมคืนให้เช่นเดียวกัน

        ปัจจุบันเพื่อนร่วมงานทุกคนต่างก็รู้สึกไม่พอใจกับการที่มีการเอาเด็กมาเลี้ยงที่ทำงานแต่ก็ไม่สามารถพูดได้เนื่องจากว่าหัวหน้างานนั้นก็เป็นญาติกับพ่อของเด็ก  ดังนั้นเขาจึงได้มีการโพสต์ถามคนในโซเชียลว่าควรจะทำอย่างไรดีเพราะตัวเขาเองนั้นก็ไม่ใช่คนที่จะรักเด็กมากสักเท่าไหร่นัก 

       อย่างไรก็ตามสำหรับ Comment ของชาวโซเชียลนั้นระบุว่าแนะนำว่าควรจะต้องมีการแจ้งพฤติกรรมให้พ่อของเด็กทราบหากไม่เชื่อให้ถ่ายเป็นคลิปให้พ่อของเด็กได้เห็นและนำคลิปดังกล่าวไปแจ้งให้หัวหน้างานพร้อมกับรวมตัวกันแจ้งกับหัวหน้างานว่าไม่สะดวกที่จะให้เด็กมาอยู่ที่ทำงานเพราะทำให้ระบบการทำงานเสียหายซึ่งถ้าหากยังไม่ได้ผลให้แจ้ง HR ของบริษัทได้เลย 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    หวยดี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หนุ่มโพสต์ เบื่อเพื่อนร่วมงานเอาลูกมาเลี้ยง ทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นเดือดร้อน

Rider เกือบตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว 

Rider เกือบตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ ในยุคสมัยนี้เป็นยุคที่ผู้คนมักจะซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์และมักจะใช้บริการของขนส่งรวมถึงถ้าหากต้องการที่จะได้สินค้าแบบเร่งด่วนก็มักจะใช้บริการไรเดอร์ไปรับสินค้าถึงที่ร้านและนำมาส่งให้กับลูกค้าซึ่งวิธีการนี้จะได้รับสินค้าเร็วแต่ก็อาจจะต้องจ่ายค่าบริการที่ค่อนข้างแพงเช่นกัน 

            อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าอาชีพ Rider จะเป็นอาชีพที่ซื่อสัตย์สุจริต  แต่ถ้าหากไม่ระมัดระวังให้ดีก็อาจจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพได้เช่นเดียวกัน

ซึ่งได้มีรายได้หนุ่มรายหนึ่ง ได้โพสต์เล่าเรื่องราวของตนเองที่เกือบจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งมิจฉาชีพโดยที่ไม่รู้ตัว

         สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นไรเดอร์หนุ่มรายนี้ระบุว่าเหตุเกิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 เดือนกันยายน ปี พ.ศ. 2565 ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นคนรับส่งของในวันดังกล่าวนั้นปรากฏว่ามีลูกค้าสาวคนนึงติดต่อมาให้ไปรับโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ที่ห้างบิ๊กซีสาขาบางใหญ่  

      อย่างไรก็ตามเมื่อไหร่เดินทางไปถึงที่บิ๊กซีบางใหญ่เมื่อแจ้งลูกค้าเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค้าก็ทำการโอนเงินจำนวนทั้งสิ้น 27,400 บาทมาให้โดยระบุว่าเป็นเงินค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อ iPhone 13 Pro  โดยลูกค้าบอกให้เลยเด้อรออยู่ที่หน้าห้างบิ๊กซีจะมีคนนำ iPhone 13 Pro มาส่งให้  

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ Rider หนุ่มรอนานกว่า 30 นาทีแล้วแต่ไม่มีใครนำโทรศัพท์มือถือมายังจุดนัดทางด้านพนักงาน Rider จึงได้  huaydee    มีการโทรบอกกับลูกค้าว่าไม่มีคนเอาโทรศัพท์มือถือมาให้ซึ่งลูกค้าก็ได้สั่งให้ Rider หนุ่มนำเงินไปคืนที่ย่านตลาดพูนทรัพย์จังหวัดปทุมธานีพร้อมกับให้ยกเลิกออเดอร์ดังกล่าว 

         เมื่อ  Rider  หนุ่มนำเงินไปคืนให้กับลูกค้าทางลูกค้าก็จ่ายเงินให้เป็นค่าบริการจำนวน 400 บาทอย่างไรก็ตามหลังจากนั้นไม่นานปรากฏว่ามีคนโทรเข้ามาหาไรเดอร์

เพื่อขอเงินคืนโดยระบุว่าตนเองเป็นคนโอนเงินให้กับ Rider เพื่อซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro 

        จากการพูดคุยกันของฝ่ายที่โทรเข้ามาที่ถือว่าเป็นผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่าได้มีการติดต่อหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อซื้อ iPhone 13 Pro ผ่านทาง facebook และหญิงสาวคนดังกล่าวได้ให้เลขบัญชีซึ่งเป็นเลขบัญชีของไรเดอร์เพื่อให้ทำการโอนเงินให้  หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อคนขายโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ได้เลยซึ่งหลังจาก Rider รู้เรื่องก็ได้มีการติดต่อไปยังลูกค้าสาวที่ทาง Rider ได้มีการนำเงินไปคืนปรากฏว่าติดต่อไม่ได้

จึงมั่นใจว่าถูกมิจฉาชีพหลอกขอเลขที่บัญชีเพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาให้กับตนเองดังนั้น Rider หนุ่มจึงได้มีการเตือนภัยผ่านทาง Social พร้อมกับมีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของตนเอง 

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน Rider เกือบตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว 

เศรษฐกิจยุคโควิด ทำสาวใหญ่เครียด รมควันฆ่าตัวตายพร้อมลูก ค่าห้องพัก

      เศรษฐกิจยุคโควิด ทำสาวใหญ่เครียด    เมื่อวันที่ 8 เดือนกุมภาพันธ์ ปีพ.ศ. 2565   ช่วงเวลาหัวค่ำ  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. ท่ายาง  จังหวัดเพชรบุรี  ได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนฆ่าตัวตายอยู่ภายในห้องเช่า  ซึ่งเป็นห้องเช่าเลขที่ 103/9  

โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 คนด้วยกันซึ่งทั้งคู่นั้นเป็นแม่ลูกกัน  หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบศพของผู้เสียชีวิตอายุประมาณ 57 ปีโดยตรวจสอบแล้วพบว่าชื่อว่านางนกเล็กในขณะที่อีกศพหนึ่งนั้นเป็นลูกสาวของนางนกเล็กชื่อนางสาว นุชรัตน์  อายุ25  ปี  

         โดยทั้งคู่เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน  ซึ่งสภาพศพของผู้เป็นแม่นั้นนอนหงายอยู่บนที่นอนส่วนสภาพศพของผู้เป็นลูกนั้นนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอนซึ่งอยู่ใกล้กันนั่นเองโดยในจุดเกิดเหตุนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหลักฐานของอุปกรณ์ในการฆ่าตัวตายในครั้งนี้นั่นก็คือเตาอั้งโล่   โดยสภาพของตัวเตาอั้งโล่นั้นมีเศษขี้เถ้าที่ไม่หมดเรียบร้อยแล้วนอกจากนี้ยังมีหลักฐานอื่นๆเช่นผ้าที่ผู้เสียชีวิตใช้ในการอุดช่องหน้าต่างประตูเอาไว้ทั้งหมดเพื่อป้องกันไม่ให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่านี่เป็นการฆ่าตัวตาย 

        จากคำให้การของคนที่พบศพคนแรกและเป็นสามีของผู้เสียชีวิตระบุว่าทั้งหมดนั้นอยู่ด้วยกัน 3 คนซึ่งผู้เสียชีวิตและลูกสาวนั้นไม่ได้ทำงานเนื่องจากว่าลูกสาวนั้นพิการแขนขาอ่อนแรงทางด้านนางนกเล็กจึงได้อยู่บ้านเพื่อคอยเลี้ยงลูกส่วนตัวสามีนั้นออกไปค้าขายโดยสามีขายพระเครื่องและขายลอตเตอรี่

        อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าสามีของนางนกเล็กยังเห็นว่าภรรยาและลูกยังเป็นปกติอยู่และช่วงเวลาเที่ยงก็มีการซื้อข้าวเอามาให้ภรรยาและลูกกิน

ซึ่งก่อนที่สามีจะออกไปขายลอตเตอรี่อีกรอบนึงนั้นปรากฏว่านางนกเล็กได้เข้ามากอดแล้วมาบอกรักซึ่งในตอนนั้นตัวเองก็รู้สึกสงสัยแต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไรอย่างไรก็ตามในช่วงเย็นทางฝ่ายสามีได้โทรเข้ามาหานางนกเล็กอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่มีคนรับสาย นอกจากนี้เมื่อมีการ LINE หานางนกเล็กก็ไม่อ่านจึงได้สงสัยทางฝ่ายสามีจึงได้โทรไปหาเพื่อนบ้านให้มาช่วยดูแต่เพื่อนบ้านมาปรากฏว่าห้องล็อคไม่สามารถเข้าไปได้จึงได้มีการโทรแจ้งสามีของนางนกเล็ก  ซึ่งสามีของนางนกและก็รีบกลับบ้านทันทีและเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็พบว่าภรรยาและลูกนั้นเสียชีวิตแล้ว.

         อย่างไรก็ตามสามีของนางนกเล็กสันนิษฐานว่านางนกเล็กอาจจะเกิดภาวะความเครียดเนื่องจากว่าลูกสาวก็พิการส่วนลูกชายอีกคนนึงนั้นก็เพิ่งออกจากสถานบำบัดยาเสพติดมาแล้วก็มักจะมาขอเงินเป็นประจำแต่นางนกเล็กนั้นไม่มีเงินให้เพราะว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีและครอบครัวก็ขายลอตเตอรี่ไม่ค่อยออกนอกจากนี้นางนกเล็กนั้นได้มีการเปิดเป็นท้าวแชร์ซึ่งลูกแชร์ก็มาทวงเงินที่ติดค้างอยู่ทำให้นางนกเล็กอาจจะเกิดภาวะความเครียดสะสมจึงได้ตัดสินใจจบปัญหาทุกอย่างด้วยการฆ่าตัวตายและฆ่าลูกตายไปพร้อมกัน 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  aesexy

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เศรษฐกิจยุคโควิด ทำสาวใหญ่เครียด รมควันฆ่าตัวตายพร้อมลูก ค่าห้องพัก

Oppo เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ หลอกลวงขายสินค้าให้

            Oppo เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ   มีการประกาศออกมาเป็นเอกสารอย่างเป็นทางการมาจากบริษัท Oppo ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ด้านไอทีและเครื่องมือถือสมาร์ทโฟน  

โดยประกาศดังกล่าวเปิดเผยเมื่อวันที่ 18 เดือนพฤษภาคม ปีพ.ศ. 2565 เนื่องจากว่ามีลูกค้าหลายรายได้มีการร้องเรียนเข้าไปที่บริษัท Oppo Thailand ระบุว่าถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายสินค้าให้ราคาถูกเมื่อมีการโอนเงินไปให้ก็ไม่ได้สินค้ากลับมา

          ดังนั้นบริษัท Oppo จึงได้มีการออกเอกสารยืนยันซึ่งเอกสารดังกล่าวนั้นออกมาจาก Oppo Thailand ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนของ Oppo บริษัทแม่ที่ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับการหลอกลวงขายสินค้าภายใต้ชื่อของบริษัท Oppo ในช่วงนี้โดยในเอกสารยืนยันว่าทางบริษัท Oppo นั้นจะไม่มีการส่งเสริมรายการหรือการเสนอสิทธิพิเศษใดๆที่จะเป็นการจูงใจหรือลดราคาให้กับลูกค้าโดยให้สังเกตว่าถ้าราคาถูกเกินจริงนั้นจะไม่ใช่ของแบรนด์ Oppo แน่นอน

          โดยปกติแล้วสำหรับลูกค้าคนไหนที่ต้องการสั่งสินค้าของแบรนด์ Apple นั้นลูกค้าสามารถที่จะสามารถสั่งสินค้าได้ที่ Oppo Brand Shop และช่องทางการจำหน่ายตามร้านทั่วไปที่เป็นตัวแทนของทาง Oppo  โดยตรง  นอกจากนี้การชำระเงินค่าสินค้าของแบรนด์ Oppo  นั้น เลขที่บัญชีจะเป็นชื่อบัญชีของบริษัทเท่านั้นจะไม่มีการให้ชำระเงินโดยการโอนเงินเข้าเลขที่บัญชีของบุคคลอื่นอย่างแน่นอน

         นอกจากนี้หากลูกค้าของทาง Oppo คนไหนอยากจะสั่งซื้อสินค้าผ่านทาง Social เช่น Facebook หรือว่า LINE official ของทาง Oppo นั้น

ควรจะต้องมีการตรวจสอบชื่อ Facebook และ LINE ให้ดีว่าเป็น LINE ของทาง Oppo จริงหรือไม่หรือ Facebook ของทาง Oppo จริงหรือไม่

          เนื่องจากในขณะนี้มีแก๊งมิจฉาชีพได้มีการหลอกลวงสร้าง Facebook และ LINE ปลอมขึ้นมาโดยสังเกตเห็นว่าสินค้าที่ถูกนำมาขายให้กับลูกค้านั้นจะมีการลดราคาให้ถูกเป็นพิเศษและนอกจากนี้บัญชีที่ให้โอนก็ยังเป็นบัญชีของบุคคลอื่นซึ่งสามารถยืนยันได้ว่านั่นคือเป็นพวกมิจฉาชีพเพื่อที่จะหลอกลวงขายสินค้าให้กับลูกค้าแนะนำว่าไม่ควรที่จะมีการซื้อสินค้าผ่านทาง facebook หรือ LINE ปลอมหากไม่มั่นใจแนะนำว่าให้ติดต่อตัวแทนจำหน่ายของทาง Oppo โดยตรงจะเป็นการดีที่สุด 

           อย่างไรก็ตามในขณะนี้มีมิจฉาชีพที่มักจะมีการเปิด Facebook หรือเปิด Social Media ไม่ว่าจะเป็น Twitter หรือ Instagram เพื่อนำสินค้าอุปกรณ์ไอทีต่างๆมาขายและถ้าลูกค้ามีการหลงเชื่อโอนเงินให้ก็จะไม่ได้รับสินค้า  ดังนั้นหากใครก็ตามที่สั่งซื้อสินค้าผ่านทาง Social Media ต่างๆควรจะต้องมีการตรวจสอบร้านค้าให้ดีเพื่อป้องกันการถูกมิจฉาชีพหลอกลวงหลอกให้โอนเงินฟรีนั่นเอง 

           ปัจจุบันไม่ใช่เพียงแค่แบรนด์  Oppo เท่านั้นที่มีการนำสินค้ามานำมาหลอกขายยังมีโทรศัพท์อีกหลายรุ่นหลายแบรนด์ที่ถูกนำมาเสนอขายผ่านทาง Social และมีลูกค้าหลายรายที่ลงซื้อโอนเงินไปให้แล้วไม่ได้รับสินค้าอย่างเช่นแบรนด์ Apple  เป็นต้น

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    หวยดี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน Oppo เตือนภัย ระวังมิจฉาชีพแอบอ้างชื่อ หลอกลวงขายสินค้าให้

หนุ่มแชร์ประสบการณ์ ออมเงินในถังแก๊ส เปิดออกมาเปิดออกมาเงินสลายกลายเป็นผง

  หากใครที่มีการเล่น Application ติ๊กต๊อกจะเห็นได้ว่าในขณะนี้กำลังมีการพูดถึงเกี่ยวกับเรื่องของการหยอดออมสินโดยใช้ถังแก๊สเป็นกระปุกออมสินซึ่งมีประเด็นว่าถ้าหากใครก็ตามที่นำเหรียญบาทหรือแม้แต่ธนบัตรไปหยอดใส่ในกระปุกออมสินที่ทำมาจากถังแก๊สนั้นเมื่อผ่านไปสักระยะเวลาประมาณ 2-3 ปีแล้วเปิดออกมาดูจะเห็นได้ว่าเงินที่มีการสะสมเงินหายไปหมด

        โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อชายคนหนึ่งได้มีการนำข้อมูลเหล่านี้มาโพสต์ลงในติ๊กต๊อกเพื่อเป็นการแชร์ประสบการณ์ของตนเองโดยเขาระบุว่าเขาเคยเห็นข้อมูลใน tiktok เกี่ยวกับเรื่องของการนำถังแก๊สมาทำเป็นกระปุกออมสิน แต่เมื่อผ่านไปซัก 2-3 ปีแล้วมาดูเงินที่มีการยอดเอาไว้ปรากฏว่าเงินมันหายไปหมดเหลือเพียงแค่เหรียญธนบัตรนั้นกลายเป็นผุยผงทำให้เงินออกเป็นจำนวนมากที่เขาได้เฝ้าเก็บออมรอมริบเอาไว้นั้นหายไปในพริบตาซึ่งเรื่องนี้นอกจากจะมีการแชร์ใน Application ติ๊กตอกแล้วเขายังได้มีการแชร์ใน Social Media อย่างเช่น Facebook ของเขาอีกด้วย 

       อย่างไรก็ตามเรื่องนี้กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าการที่นำถังแก๊สมาเป็นกระปุกออมสินนั้นจะทำให้ธนบัตรหายไปได้จริงหรือไม่

ซึ่งเรื่องนี้ทางด้านรองศาสตราจารย์ ดร. เจษฎา  ซึ่งเขามักจะนิยมออกมาทำการเปิดเผยเรื่องราวที่หลายคนคิดว่ามันเป็นเรื่องอัศจรรย์และไม่น่าจะเป็นไปได้ให้กลายมาเป็นเรื่องราวของทางวิทยาศาสตร์และสามารถพิสูจน์ให้เห็นได้ว่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่ใช่เรื่องราวเหนือธรรมชาติแต่อย่างใดซึ่งในครั้งนี้อาจารย์เจษฎาเองก็ได้มีการออกมาเปิดเผยผ่านทาง Facebook ของตนเองเมื่อวันที่ 4 เดือนกุมภาพันธ์พ.ศ 2565 ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน 

       โดยอาจารย์เจษฎายืนยันว่าเรื่องราวการนำธนบัตรหยอดกระปุกออมสินแล้วทิ้งไว้ประมาณ 3 ปีเปิดมาแล้วไม่มีธนบัตรเจอแต่ผงธนบัตรนั้นเรื่องนี้ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใดเพราะการที่ถังแก๊สถูกเจาะให้เป็นรูเรียบร้อยแล้วนั้นแก๊สในถังแก๊สหรือน้ำยาในถังแก๊สก็จะมีการระเหยออกมาหมดแล้วจึงไม่มีน้ำยาหรือแก๊สใดๆที่จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับธนบัตรได้จนธนบัตรการเป็นปุ๋ยผงได้นั่นเอง

     นอกจากนี้อาจารย์เจษฎายังระบุด้วยว่าจากการที่ดูในคลิปจะเห็นได้ว่าผงที่มีอยู่ในถังแก๊สนั้นมีเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นซึ่งถ้าหากธนบัตรมีการเก็บเอาไว้ในราคาหลักหมื่นก็น่าจะมีธนบัตรอยู่หลายใบซึ่งตัวผมนั้นน่าจะมีปริมาณที่เยอะมากกว่านี้

โดยอาจารย์เจษฎาแนะนำเจ้าของคลิปที่นำมาเผยแพร่ว่าควรจะไปสอบถามญาติพี่น้องดูว่ามีใครแอบมาเอาธนบัตรภายในถังแก๊สไปหรือไม่เพราะยันได้ว่าการที่เอาธนบัตรใส่ลงไปในกระปุกออมสินที่ทำมาจากถังแก๊สนั้นจะไม่หายอย่างแน่นอน

 

สนับสนุนโดย.    alpha88

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน หนุ่มแชร์ประสบการณ์ ออมเงินในถังแก๊ส เปิดออกมาเปิดออกมาเงินสลายกลายเป็นผง

เด็ก ม.2 หัวร้อน ไม่พอใจครูจะตัดผม ผลักจนล้ม-กระทืบอก 

     เด็ก ม.2 หัวร้อน   เมื่อวันที่ 31 เดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณบ่ายสามโมงเย็น เกิดเหตุการณ์ครูวิชาสังคมศึกษาของโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเลยถูกเด็กนักเรียนทำร้ายร่างกายโดยมีการผลักครูจนล้มลง   นอกจากนี้ยังมีการกระทืบซ้ำและที่สำคัญเด็กยังมีการพยายามที่จะใช้กรรไกรแทงครู โชคดีที่มีเพื่อนๆมาช่วยห้ามไว้ได้ทัน

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นต่อหน้าเด็กนักเรียนหลายคนด้วย  สาเหตุของการทำร้ายร่างกายครูในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อคุณครูคนที่ได้รับบาดเจ็บเห็นเด็กนักเรียนชายชั้นม. 2 ไว้ผมยาวจึงได้มีการหยิบกรรไกร ออกมา แล้ว

เรียกเด็กเพื่อที่จะตัดผมที่ยาวออก  ยังไงก็ตามยังไม่ทันที่ครูจะได้ตัดผมเด็กนักเรียนชั้นม. 2 ก็หัวร้อน ผลักครูจนล้มลง  หลังจากนั้นก็ใช้เท้ากระทืบไปที่บริเวณหน้าอกของครูอยู่ประมาณ 3-4 ครั้ง

          นอกจากนี้ยังมีการ นำเก้าอี้พลาสติกซึ่งเป็นเก้าอี้ที่อยู่ในชั้นเรียนสำหรับใช้ในการนั่งเรียนมาฟาดอยู่ที่คุณครูอีกด้วย  เท่านั้นยังไม่พอเด็กนักเรียนชั้นม. 2 ยังได้มีการนำกรรไกรที่คุณครูจะเอามาตัดผมของตนเองพยายามที่จะแทงไปที่คุณครู   โชคดีมากๆ

ที่ในขณะนั้นมีเด็กนักเรียนอยู่ประมาณ 10 คน  จึงได้ช่วยกันเข้ามาห้ามปราม  ซึ่งเด็กนักเรียนหลายคนนั้นก็ถูกเด็กนักเรียนชั้นม. 2 ทำร้ายร่างกายจนปากแตก ฟันหักก็มี 

         จากการให้ข้อมูลของนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้มีการเราเพิ่มเติมด้วยว่าก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ทำร้ายครูในวันนี้เด็กนักเรียนชั้นม. 2 ได้มีการเข้ามาพูดกับเพื่อนว่าจะลงมือตีครู  พอวันรุ่งขึ้นเมื่อครูเรียกเด็กนักเรียน ม.2 ไปตัดผมเนื่องจากว่าทรงผมผิดระเบียบ 

เด็กคนดังกล่าวก็ลงมือกระทืบครู และผลักครูจนล้มลง รวมถึงหยิบเก้าอี้ที่อยู่ในห้องจะฟาดครูอีกด้วย   ซึ่งเด็กนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ ทั้ง 10 คนให้การตรงกันว่าเด็กนักเรียนชั้นม. 2 เป็นคนที่ลงมือทำร้ายร่างกายคุณครูก่อนและคุณครูไม่ได้มีการตอบโต้อะไรเด็กเลย 

        อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวผู้อำนวยการโรงเรียนได้มีการออกมารับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและได้มีการสอบถามเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งทุกคนให้การตรงกันว่าเด็กมีการวางแผนมาเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนที่จะมีการทำร้ายร่างกายครูในวันนี้ 

ซึ่งเด็กตั้งใจที่จะทำร้ายร่างกายครูและในขณะที่ก่อเหตุนั้นเด็กนักเรียนชั้นม. 2 มีลักษณะอาการของคนที่ขาดสติ  โดยเรื่องนี้ทางโรงเรียนได้มีการแจ้งผู้ปกครองของเด็กนักเรียนชั้นม. 2 ให้ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว 

       สำหรับครอบครัวของเด็กนักเรียนชั้นม 2 นั้นระบุว่าตอนนี้รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วและจะมีการเข้าไปพูดคุยกับคุณครูที่โรงเรียนในวันที่ 1 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2565 ช่วงเวลาประมาณ 13:00 น. ทั้งนี้ครอบครัวของเด็กได้มีการประสานงานขอโทษคุณครูที่ถูกทำร้ายร่างกายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

สนับสนุนโดย.   แทงหวยจับยี่กี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน เด็ก ม.2 หัวร้อน ไม่พอใจครูจะตัดผม ผลักจนล้ม-กระทืบอก 

อดีตผู้จัดการ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลังจากที่ต้องทำงานน่าเบื่อเกิน  สุดท้ายได้รับเงินชดเชยจากบริษัท 1.5 ล้าน 

  อดีตผู้จัดการ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า  เมื่อวันที่ 11 เดือนมกราคมปี พ.ศ. 2565 เว็บไซต์ชื่อดังของต่างประเทศได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งเขามีชื่อว่า เฟรเดอริก เดสนาร์ด  โดยเรื่องราวที่ถูกนำมาตีแผ่ในโลกออนไลน์ของต่างประเทศนั้นมีการระบุว่าชายหนุ่มรายนี้นั้นเขาทำงานอยู่กับโรงงานน้ำหอมแบรนด์หรูแบรนด์หนึ่งซึ่งตำแหน่งที่เขาทำงานนั้นก็คือตำแหน่งผู้จัดการของโรงงานนั้นเอง

    อย่างไรก็ตามปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ เฟรเดอริก เดสนาร์ด ทำงานอยู่ในโรงงานแห่งนี้ในทุกๆวันนั้นเขาแทบจะไม่มีงานอะไรให้ทำเลยซึ่งเขาระบุว่าในแต่ละวันนั้นเขาได้ทำงานแค่เพียงวันละ 20 ถึง 40 นาทีเท่านั้นนอกเหนือจากนั้นเขาก็ระเหยลอยชาย

เพราะไม่มีงานอะไรให้ทำแล้วทำให้เขารู้สึกเครียดเป็นอย่างมากเพราะเขารู้สึกว่าตัวเองนั้นไร้คุณค่าและทำงานไม่คุ้มกับเงินที่บริษัทต้องจ่ายให้กับเขาทำให้เขาเริ่มรู้สึกละอายใจเป็นอย่างมากและในที่สุดเขาก็เกิดสภาวะความเครียดกลายเป็นโรคซึมเศร้า 

        นอกจากจะเป็นโรคซึมเศร้าแล้ว เฟรเดอริก เดสนาร์ด ยังมีสภาวะ Bore out ซึ่งอาการของโรคนั้นจะเป็นลักษณะของอาการที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจเนื่องจากว่าจะมีอาการเบื่อหน่ายและผู้ที่เป็นโรคนี้ก็ไม่อยากที่จะทำอะไรเลยไม่มีความกระตือรือร้นในชีวิต 

ซึ่งทางด้านเฟรเดอริก เดสนาร์ด มองว่าเขาเป็นโรคนี้เพราะเขาทำงานที่โรงงานน้ำหอมแห่งนี้นั่นเองโดยเขารู้สึกว่าเขารู้สึกเหมือนตกนรกเป็นอย่างมาก

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่ เฟรเดอริก เดสนาร์ด ต้องทนกับอาการป่วยจากการทำงานภายในโรงงานน้ำหอมแห่งนี้มาอย่างยาวนานในที่สุดในปีพ.ศ 2557 เขาก็ถูกทางโรงงานนั้นเลิกจ้างงานโดยเหตุผลในการเลิกจ้างงานก็เพราะว่าเขาไม่พร้อมในการทำงาน

เนื่องจากว่าร่างกายของเขานั้นอยู่ในสภาพทรุดโทรมอย่างหนักและเขาป่วยติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือนซึ่งอาการของเขานั้นมีตั้งแต่ขนาดขับรถแล้วเกิดอาการชักเกร็งทำให้เกิดอุบัติเหตุและเขาต้องนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเป็นระยะเวลานานเนื่องจากว่าอยู่ในอาการโคม่า

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่ เฟรเดอริก เดสนาร์ด รักษาตัวหายเป็นอย่างดีแล้วเขาก็ได้มีการติดต่อทนายเพื่อทำเรื่องฟ้องร้องไปยังโรงงานที่เขาเคยทำงานอยู่โดยเรียกร้องค่าเสียหายอยู่ที่ประมาณ 360,000 ยูโร โดยให้เหตุผลว่าเขาป่วยเพราะทำงานอยู่ภายในโรงงานแห่งนี้และที่สำคัญเขาถูกเลิกจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรม 

      อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทางโรงงานน้ำหอมจะออกมาตอบโต้กับเรื่องของการฟ้องร้องและค่าชดเชยที่ทางเฟรเดอริก เดสนาร์ด ได้มีการกล่าวอ้างแต่จากพยานหลักฐานต่างๆก็ทำให้ในที่สุดศาลได้มีการตัดสินออกมาเป็นที่เรียบร้อยว่าทางโรงงานจะต้องมีการจ่ายเงินชดเชยให้กับเฟรเดอริก เดสนาร์ด ซึ่งเขาได้รับเงินชดเชยเป็นจำนวนสูงถึง 1.5 ล้านบาทเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.    แทงหวยออนไลน์ยังไง

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน อดีตผู้จัดการ ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าหลังจากที่ต้องทำงานน่าเบื่อเกิน  สุดท้ายได้รับเงินชดเชยจากบริษัท 1.5 ล้าน 

ทนายสิทธาพาเหยื่อเข้าแจ้งจับประธานสโมสรฟุตบอลและภรรยาข้อหาโกงลอตเตอรี่ 

         ทนายสิทธาพาเหยื่อ เมื่อวันที่ 14 เดือนมกราคมปีพศ. 2565 ทนายสิทธาได้มีการพาผู้เสียหายซึ่งมีมากถึง 12 คนด้วยกันเดินทางไปที่สถานีตำรวจสภขอนแก่นเพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาที่ทางผู้เสียหายทั้ง 12 คนนั้นถูกโกงลอตเตอรี่จากทางด้านประธานสโมสรฟุตบอลของสโมสรสโมสรหนึ่ง

ซึ่งอยู่ในจังหวัดของทางภาคอีสานรวมถึงภรรยาของประธานสโมสรฟุตบอลก็ร่วมในการฉ้อโกงในครั้งนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

           จากการให้ข้อมูลของทนายสิทธาได้มีการระบุว่าทางด้านผู้เสียหายทั้งหมด 12 คนนี้ได้มีการรวมตัวกันเพื่อมาติดต่อให้ทนายสิทธานั้นเข้าช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องของการโดนโกงลอตเตอรี่ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 12 ล้านบาทและนี่เป็นเพียงแค่กลุ่ม 12 คนนี้เท่านั้นซึ่งนอกเหนือจากนี้ยังมีรายกลุ่มที่ทางด้านประธานฟุตบอลที่มีการโกงเรื่องของลอตเตอรี่นั้นไปตั้งไลน์กลุ่มไว้อีกมากมาย

ซึ่งโดยรวมแล้วในขณะนี้มีรายกลุ่มที่เป็นผู้เสียหายที่ถูกประธานสโมสรฟุตบอลคนดังกล่าวโกงมามากกว่า 300 คนเลยทีเดียวและถ้าหากทั้งหมดนับยอดความเสียหายรวมกันแล้วก็พบว่ามูลค่าความเสียหายนั้นมากถึงเป็นพันล้านบาทเลยก็ว่าได้ 

        สำหรับรายละเอียดของการถูกโกงนั้น ผุู้เสียหายแต่ละคนจะเสียเงินมากน้อยแตกต่างกันออกไป โดยบางคนถูกโกงหลักแสนบาทก็มี แต่บางคนก็ถูกโกงหลักล้านบาท และมีที่ถูกโกงมากสุดสูงถึง สี่สิบล้านบาทเลยก็มี นอกจากนี้ผู้เสียหายไม่ใช่เพียงแค่คนในจังหวัด

ในเขตภาคอีสานเพียงเท่านั้นแต่ยังมีคนอื่นๆอย่างเช่นในเขตกรุงเทพฯก็มีเช่นเดียวกันซึ่งในขณะนี้ผู้เสียหายที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯก็ไปกำลังนัดรวมตัวกันเพื่อจะไปแจ้งความดำเนินคดีกับประธานสโมสรฟุตบอลรายดังกล่าวอีกด้วย 

          สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดการฉ้อโกงกันในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อประธานสโมสรฟุตบอลชื่อดังแห่งหนึ่งของจังหวัดในภาคอีสานกับภรรยาของเขานั้นได้มีการชักชวนให้ผู้คนร่วมทำการลงทุนด้วยกันโดยการลงทุนดังกล่าวนั้นเป็นการลงทุนซื้อลอตเตอรี่เพื่อที่จะได้นำมาขายซึ่งเมื่อทางผู้สนใจร่วมลงทุนมีการโอนเงินให้แล้วปรากฏว่าทางด้านเจ้าของสโมสรฟุตบอลกับไม่ยอมนำลอตเตอรี่มาให้อย่างไร

ก็ตามช่องทางการชักชวนของสองสามีภรรยาคู่นี้นั้นนอกจากจะชักชวนคนที่รู้จักกันแล้วยังมีการเปิด Facebook ชักชวนคนทั่วไปให้มาร่วมลงทุนในการขายลอตเตอรี่ในครั้งนี้ด้วยทำให้มีผู้คนจากหลายจังหวัดนั้นให้ความสนใจและนำเงินมาร่วมลงทุนแล้วก็ถูกโกงนั่นเอง

        อย่างไรก็ตามการโกงมหากาพย์ในครั้งนี้ไม่ใช่มีเพียงแค่สองสามีภรรยาคู่นี้เท่านั้นแต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคนซึ่งทางด้านทนายสิทธานั้นจะได้มีการนำหลักฐานต่างๆส่งให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการติดตามตัวคนร้ายทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป 

 

สนับสนุนโดย.    หวยดี

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน ทนายสิทธาพาเหยื่อเข้าแจ้งจับประธานสโมสรฟุตบอลและภรรยาข้อหาโกงลอตเตอรี่ 

พ่อแม่ติดโควิด ไม่มีใครรับสายสุดท้ายพ่อแม่ตาย

       ลูกสาวโพสต์เศร้า  พ่อแม่ติดโควิด โทรขอความช่วยเหลือเท่าไหร่ก็ไม่มีใครรับสายสุดท้ายพ่อแม่ตายก่อนได้รักษา

         ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อความลงใน Facebook กรณีที่ทางด้านเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งเพื่อจะไปช่วยเหลือผู้ติดเชื้อไวรัส covid จำนวน 2 คนซึ่งเป็นสามีภรรยากันนำไปส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการป่วยอย่างไรก็ตามกู้ภัยระบุว่าเมื่อไปถึงบ้านพักหลังดังกล่าวนั้นปรากฏว่าต้องเจอกับเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจและน่าเศร้าใจเป็นอย่างมากเพราะแทนที่จะได้เจอผู้ป่วยทั้งสองคนกับได้เพียงแค่เห็นศพของทั้งสองคนนอนเสียชีวิตตายคู่กัน

        เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เดือนกรกฎาคมปีพ.ศ 2554 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงเวลาเช้าตรู่ที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ลงพื้นที่อย่างเร่งด่วนหลังจากได้รับแจ้งว่ามีคนติดเชื้อไวรัส covid อาการแย่ต้องการให้พาไปรักษาอาการป่วยอย่างเร่งด่วน

ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามที่จะรีบเร่งเดินทางไปยังสถานที่ที่อยู่คลอง 2 ตายายดังกล่าวซึ่งเป็นห้องพักภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่อยู่ในเขตกรุงเทพฯตรงเขตสายไหมโดยคอนโดดังกล่าวนั้นอยู่ในซอยพหลโยธิน 50 แยก 11

          อย่างไรก็ตามลูกสาวของสองสามีภรรยาที่เสียชีวิตนั้นยังให้ข้อมูลว่าตัวเธอเองนั้นหลังจากรู้ว่าพ่อแม่ติดเชื้อไวรัสโควิตก็พยายามทุกวิถีทางที่จะพยายามติดต่อหน่วยงานหรือโรงพยาบาลให้มารับพ่อกับแม่เธอไปรักษาแต่ไม่ว่าเธอจะโทรไปที่หมายเลขอะไรก็ไม่สามารถติดต่อได้เลยแม้แต่หมายเลขโทรศัพท์ของทางโรงพยาบาลก็ติดต่อไม่ได้

สายไม่ว่างและสายตัดอยู่ตลอดเวลานอกจากนี้เมื่อมีการโทรติดบางโรงพยาบาลก็ระบุว่าตอนนี้เตียงเต็มแล้วไม่สามารถรับผู้ป่วยเพิ่มได้แล้วซึ่งเธอเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรจนในที่สุดก็ต้องเห็นพ่อกับแม่นอนตายคู่กันซึ่งทำให้เธอนั้นเสียใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว  

           อย่างไรก็ตามปัญหาคนเสียชีวิตจากการป่วยติดเชื้อไวรัส covid ภายในบ้านหลังจากที่ต้องรอความช่วยเหลือแต่เนื่องจากว่าบุคลากรทางการแพทย์มีน้อยและเตียงก็เต็มจนล้นโรงพยาบาลจนจำเป็นที่จะต้องสร้างโรงพยาบาลสนามแต่ก็ยังเต็มอีก

ทำให้ในขณะนี้มีผู้คนเป็นจำนวนมากที่ต้องรักษาอาการป่วยด้วยตัวเองอยู่ที่บ้านและส่วนใหญ่ก็มักจะเสียชีวิตโดยส่วนมากและผู้เสียชีวิตภายในบ้านนั้นมักจะเป็นคนสูงอายุ  และคนที่มีอาการป่วยเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว

สำหรับเหตุการณ์เร่งด่วนในตอนนี้ก็คือการพยายามหาสถานที่ในการสร้างโรงพยาบาลสนามและหาบุคลากรทางการแพทย์มารักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส covid ให้เพียงพอเชื่อว่าปัญหาคนเสียชีวิตภายในบ้านหรือริมถนนจะไม่มีอีกต่อไปถ้าหากรัฐมีการดูแลใส่ใจ ห่วงใย ประชาชนเป็นอย่างดี 

สนับสนุนโดย.  หวยฮานอย บาทละ 1000

โพสท์ใน ข่าวทั่วไป | ติดป้ายกำกับ , | ปิดความเห็น บน พ่อแม่ติดโควิด ไม่มีใครรับสายสุดท้ายพ่อแม่ตาย