สงสารยายตาบอด นอนกอดศพ ไม่รู้ลูกชายตายแล้ว

           มีเรื่องให้ชวนเศร้าใจเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ห้องเช่าแห่งหนึ่งที่อยู่ชั้น 5 ของคอนโดมหาทรัพย์คอนโดอยู่ในเขตกรุงเทพฯกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้สาเหตุเนื่องจากว่ามีหญิงชราคนหนึ่งซึ่งตาบอดทั้ง 2 ข้างโดยปกติแล้วจะอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 54 ปี

อยู่ด้วยกันเพียงลำพังสองคนซึ่งลูกชายจะเป็นคนหาเลี้ยงหญิงชราโดยลูกชายนั้นชื่อว่านายสุวรรณ  ปกติแล้วนายสุวรรณจะมีอาชีพขับรถแท็กซี่ซึ่งจะต้องไปเช่ารถแท็กซี่จากเจ้าของอู่โดยเสียค่าเช่าวันละ 300 บาทในช่วงนี้ที่มีการระบาดของไวรัสคือระนาดนายสุวรรณได้ขออนุญาตเจ้าของอู่นำรถแท็กซี่มาจอดที่คอนโด

เพราะบางทีจะต้องกลับมาซื้อข้าวและมาป้อนข้าวแม่ในช่วงกลางวันและช่วงเย็นซึ่งเจ้าของอู่ก็อนุญาตเป็นอย่างดีโดยเมื่อวันที่ 15 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2563 ช่วงเวลาประมาณ 16:00 นเจ้าของอู่ได้เดินทางมาที่คอนโดของนายสุวรรณ

เนื่องจากว่าไม่สามารถติดต่อกับนายสุวรรณได้มา 2 วันแล้ว  ซึ่งโดยปกติแล้วในส่วนจะต้องมีการไปจ่ายค่าเช่าที่อู่ทุกเย็นแต่ผ่านมา 2 วันแล้วนายสุวรรณยังไม่มีการติดต่อจ่ายค่าเช่าและเมื่อโทรไปนายสุวรรณก็ไม่รับสายทางเจ้าของอู่จึงได้เดินทางมาหานายสุวรรณที่คอนโดหลังจากที่ขึ้นไปบนห้องก็ได้มีการตะโกนเรียกพร้อมกับผักประตูซึ่งพบว่าประตูไม่ได้ลงกลอนแต่เมื่อประตูเปิดเจ้าของอู่ก็ได้กลิ่นศพทำให้เจ้าของอู่ต้องรีบเข้าไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น

ก็พบว่านายสุวรรณนอนเสียชีวิตอยู่กลางห้องนอนพร้อมกันนั้นก็มีแม่ของนายสุวรรณนอนกอดศพอยู่ข้างๆโดยที่หญิงชราไม่รู้เลยว่าลูกชายของตนเองนั้นได้เสียชีวิตมาแล้วถึง 2 วันด้วยกันเมื่อเจ้าของอู่ได้มีการบอกหญิงชราว่านายชวนเสียชีวิตแล้ว

ทำให้เธอเสียใจเป็นอย่างมากเพราะเธอเหลือแค่นั้นส่วนเพียงแค่คนเดียวเธอบอกกับฉันเจ้าของหมู่บ้านเธอไม่รู้ว่านายชวนเสียชีวิตคิดว่าแค่นอนหลับเท่านั้นและเธอเองนั้นก็ไม่ได้กินข้าวมา 2 วันแล้วเพราะโดยปกติแล้วนายสุวรรณจะเป็นคนหาข้าวหาน้ำมาให้เธอกินเมื่อเจ้าของอู่เห็นศพนายสุวรรณจึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาชันสูตรพลิกศพ

ซึ่งเมื่อกู้ภัยเดินทางมาถึงและทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงต่างก็รู้สึกเวทนากับภาพที่เห็นตรงหน้ามากเพราะหญิงชราที่ตาบอดกำลังนั่งลูกหัวลูกชายของตนเองพร้อมกับร่ำไห้ไปด้วยอย่างไรก็ดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานงานไปยังบ้านพักคนชราเพื่อมารับตัวหญิงชราไปทำการดูแลต่อไปซึ่งจะว่าเธอนั้นไม่มีญาติที่ไหนแล้ว

 

สนับสนุนเรื่องราวมาจาก  bk8th

เรื่องนี้ถูกเขียนใน ข่าวดังในวันนี้ และติดป้ายกำกับ , คั่นหน้า ลิงก์ถาวร